บ้าน เช่า บึงกุ่ม
สะตอ เป็นผักชนิดหนึ่งทางภาคใต้ ลักษณะเป็นฝักคล้ายฝักของต้นหางนกยูง รับประทานเมล็ดที่อยู่ในฝัก ใช้เป็นผักเหนาะ หรือนำไป ประกอบอาหารได้หลายชนิด 2. สะตอเบา คือต้นกระถิน รับประทานได้ทั้งยอดอ่อนและเมล็ดในฝักยอดอ่อนจะใช้เป็นผักเหนาะ ส่วนเมล็ดกระถินมักรับประทานกับข้าวยำ 3. สะตอดอง คือสะตอที่ทำให้มีรสเปรี้ยว โดยการดองกับน้ำตาลและเกลือ 4. ลูกเนียง เป็นผลของไม้ยืนต้นชนิดหนึ่งในภาคใต้ ลักษณะของผลจะมีเปลือกแข็ง รับประทานเมล็ดข้างใน ลูกเนียงถ้ายังไม่แก่ เปลือกใน ที่ติดกับเมล็ดจะมีสีนวล เนื้อสีเหลืองนวลเช่นกัน มีรสมันและกรอบ ผลที่แก่จัดเอาไปต้มจนเนื้อเหนียว รับประทานกับมะพร้าวทึนทึกขูดผสมกับน้ำตาลทราย และเกลือใช้เป็นของขบเคี้ยวได้ 5. ลูกเนียงหมาน คือการเอาลูกเนียงที่แก่ไปแช่น้ำพอให้เปลือกแตกแล้วนำไปหมกไว้ในทราย พรมน้ำให้ชื้นทิ้งไว้สัก 2-3 วัน พอมีรากงอกออกมา เป็นใช้ได้ ลูกเนียงหมานจะมีกลิ่นฉุนและรสเฝื่อน 6. หน่อเหรียง มัลักษณะคล้ายถั่วงอกหัวโต แต่หัวจะโตกว่าถั่วงอกและมีสีเขียว รสมัน กลิ่มฉุน ใช้เป็นผักเหนาะ และนำไปประกอบอาหารได้หลายชนิด 6. ยอดยาร่วง คือยอดอ่อนของต้นมะม่วงหิมพานต์ มีรสชาติฝาด ๆ เปรี้ยว ๆ ใช้เป็นผักเหนาะกับน้ำพริกต่าง ๆ ขนมจีนน้ำยา และแกง 7.
2478) ซึ่งสอดคล้องกันกับของ ม. ล. เนื่อง นิลรัตน์ ในหนังสือ ตำรากับข้าวชาววัง (พ.
อ้อดิบ คือต้นคูนของภาคกลาง เวลาใช้ปรุงอาหารให้ลอกเยื่อบาง ๆ ออก แล้วหั่นเป็นท่อนคล้ายสายบัว 3. ยอดพริก คือใบอ่อนของต้นพริก ซึ่งทางภาคใต้ใช้ประกอบอาหาร 4. ยอดมวง คือยอดต้นชะมวง มีรสเปรี้ยว ใช้แกงส้ม ต้มเครื่องในก่อนใช้ต้องนำยอดมวงย่างไฟให้เหี่ยวเสียก่อน เพื่อช่วยลดความเหม็นเขียวลง 5. ใบรา คล้ายใบยี่หร่า มีรสเผ็ด กลิ่มหอม ใช้ใส่แกง เพื่อดับกลิ่นคาว เช่น แกงคั่วปลาดุก แกงคั่วปลาไหล 6. ยอดส้มแป้น ยอดอ่อนของต้นส้มแป้น มีรสเผ็ด กลิ่นหอมใช้ดับคาวปลา 7. ยอดดอกผักตบ ยอดดอกมีลักษณะคล้ายดอกข่า นำมาทำแกงส้ม 8. ลูกส้มไฟอ่อน คือลูกมะไฟอ่อน มีรสเปรี้ยว ใช้เป็นผักเหนาะหรือทำแกงส้ม 9. น้ำบูดู บูดูชนิดหวาน หรือที่เรียกว่าน้ำเคย ใช้คลุกข้าวยำปักษ์ใต้ บูดูชนิดเค็ม ใช้ปรุงอาหารประเภทน้ำพริกเครื่องจิ้ม บูดูทำจากการหมักปลาตัวเล็ก ๆ กับเกลือเม็ด โดยหมักไว้ในโอ่ง ไห หรือ ถังซีเมนต์แล้วปิดฝาผนึกอย่างดี ตากแดดทิ้งไว้ 2-3 เดือน หรือเป็นปี จึงนำมาใช้ได้ 10. กุ้งส้ม คือการนำเอากุ้งสดลาลวกพอสุก หมักกับเกลือ น้ำตาลทรายประมาณ 7 วัน จนมีรสเปรี้ยวจึงนำมาใช้ได้ กุ้งที่ใช้ทำกุ้งส้ม ส่วนใหญ่จะใช้กุ้งแตะ เพราะเวลาหมักจะมีสีแดงส้ม แต่ถ้าเป็นกุ้งสีขาวสีจะไม่แดง ต้องใช้ใส่สีช่วย 11.
ยอดปราง คือยอดอ่อนของต้นมะปราง มีรสฝาด ใช้เป็นผักเหนาะ 8. ยอดมะกอก คือยอดอ่อนของต้นมะกอก มีรสเปรี้ยว ใช้เป็นผักเหนาะ 9. หยวกกล้วยเถื่อน คือแกนกลางของต้นกล้วย นำมาลวกเป็นผักเหนาะ หรือจะทำแกงส้ม แกงเผ็ด แกงเลียง 10. ยอดหมุย ลักษณะใบเรียวเล็ก รสมัน กลิ่มหอมใช้เป็นผักเหนาะ 11. ยอดแมะ มีลักษณะคล้ายใบตำลึง ต้มกับกะทิใช้เป็นผักเหนาะหรือจะนำไปทำแกงก็ได้ 12. ผักกูด ใช้ต้มกับกะทิ เป็นผักเหนาะ 13. ยอดธัมมัง คล้ายใบทองหลาง มีกลิ่นฉุนเหมือนแมงดานา ใช้เป็นผักเหนาะ 14. ยอดเม็ดชุน ใช้เป็นผักเหนาะ 15. ยอดมันปู คล้ายยอดชะมวง รสมัน ใช้เป็นผักเหนาะ 16. ยอดเลียบ คล้ายยอดมะม่วงหิมพานต์ ใช้เป็นผักเหนาะ 17. ผักกาดนกเขา เป็นไม้เลื้อย ใช้เป็นผักเหนาะ หรือ แกงเลียง 18. ลูกฉิ่ง เป็นลูกกลม ๆ เล็ก ๆ คล้ายมะเขือพวง มีรสเปรี้ยว ๆ ฝาด ๆ ใช้เป็นผักเหนาะ และรับประทานกับขนมจีนน้ำยา 19. ลูกเดื่อ ลูกมะเดื่อ ลักษณะกลมใหญ่กว่าลูกฉิ่ง ใช้เป็นผักเหนาะ 20. ใบพาโหม จะมีรสขมนิด ๆ หั่นฝอยใส่ข้าวยำทรงเครื่อง หรือใช้จิ้มเกลือกินกับข้าว ผักชนิดอื่น ๆ และเครื่องปรุงอาหารที่เป็นลักษณะเฉพาะภาคใต้ 1. เห็ดแครง เป็นเห็ดที่ขึ้นตามต้นยางพาราที่ถูกโค่นแล้วมีมากในฤดูฝนลักษณะคล้ายดอกไม้ มีทรายมาก เวลาทำอาหารจึงต้องล้างหลาย ๆ ครั้ง เพื่อให้ทรายหมด ใช้ทำอาหารได้หลายชนิด เห็ดแครงนำมาตากแห้งเก็บไว้ได้นาน 2.
เผยแพร่เนื้อหาในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2561
เนื้อหนาง คือการนำเอาหัวของวัวไปย่างไฟอ่อน ๆ จนสุกทั่วกันดีแล้วแช่น้ำทิ้งไว้หนึ่งคืน รุ่ง ขึ้นจึงขูดเอาส่วนที่ไหม้ออกจนขาวสะอาดีและเอาแต่เนื้อ นำมาเคล้ากับเกลือ น้ำตาลปีบ หมักทิ้งไว้ 2-3 คืนจึงนำมาใช้ปรุงอาหารได้ หรือจะใช้เศษเนื้อปนเอ็นหมักก็ได้ 12. ปลาขี้เสียดแห้ง คือการนำปลาสีเสียดมาใส่เกลือจนทั่วตัวปลาแล้วตากแดดให้แห้ง เก็บไว้รับประทานได้นาน 13. ปลาทูกัง คือปลาริวกิว 14. ลูกปลา คือปลาน้ำจืดตัวเล็ก ๆ หรืออาจเป็นปลาไส้ตันก็ได้ 15. ปลาหลาด คือ ปลาสลาดเป็นน้ำจืด รูปร่างคล้ายปลากลาย 16. ปลาแป้งแดง คือปลาโคบ นำมาหมักกับข้าวสุก เกลือ ใส่สีแดง หมักทิ้งไว้ 3-4 วันจึงนำมาปรุงอาหารได้ แกงหมูกับลูกเหรียง เครื่องปรุง ลูกเหรียงเด็ดหางออก เนื้อหมูหั่นบาง มะพร้าวขูด น้ำปลา น้ำตาลปีบ 500 1 กรัม กิโลกรัม ช้อนโต๊ะ ช้อนชา เครื่องแกง ตะไคร้ พริกขี้หนูสด กระเทียม หอมแดง ข่า พริกไทยเม็ด เกลือป่น กะปิ ขมิ้น 3-4 40 4 5 2 ต้น เม็ด หัว แว่น นิ้ว วิธีทำ 1. โขลกเครื่องแกงทั้งหมดรวมกันให้ละเอียด 2. คั้นมะพร้าว แยกหัวกะทิไว้ 1 ถ้วย 3. เอาหางกะทิตั้งไฟ พอเดือดใส่เครื่องแกง พอน้ำเข้าเครื่อง ใส่เนื้อหมู น้ำปลา น้ำตาลปีบ ต้มจนหมูสุกใส่ลูกเหรียง ใส่หัวกะทิ ตั้งไฟต่ออีกสักครู่ ปิดไฟ ยกลง 4.
แจกฟรี! สูตร อาหารไทย ภาคกลาง มีทั้งเมนูต้ม นึ่ง ผัด แกง และทอด หอมอร่อยเครื่องแกงไทย ๆ ทำไม่ยากอร่อยได้ทั้งครอบครัว จากที่เคยกินอาหารภาคใต้รสเผ็ดจัดจ้าน ก็ลองมาทำอาหารภาคกลางกินง่ายสบายพุงกันดีไหม กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำอาหารไทยภาคกลาง เช่น ต้มยำกุ้ง แกงเลียง เต้าเจี้ยวหลน ห่อหมกปลา และเมนูอาหารภาคกลางอื่น ๆ อีกเพียบ ขอจิ้มสูตรที่ชอบแล้วเข้าครัวก่อนนะคะ 1. ต้มยำกุ้ง เอ่ยถึงอาหารไทยภาคกลางอันดับต้น ๆ ถูกปากทั้งคนไทยและต่างชาตินั่นคือ เมนูต้มยำกุ้ง สูตรจาก นิตยสาร Gourmet & Cuisine สูตรต้มยำกุ้งน้ำข้นรสหอมมันจากกะทิ เติมสีสันจากน้ำพริกเผา แต่งด้วยผักชีฝรั่ง ดูวิธีทำ "ต้มยำกุ้ง" คลิก ต้มแซ่บปลากะพง 2. ต้มแซ่บปลากะพง สำหรับคนชอบความแซ่บแต่เบื่อเมนูต้มยำแล้ว ขอนำเสนอต้มแซ่บปลากะพง ใส่เห็ดฟางและเครื่องสมุนไพร เติมข้าวคั่วหน่อย ปรุงรสแซ่บจัดจ้านตามชอบ เปลี่ยนจากเนื้อปลาเป็นอาหารทะเล หรือกระดูกหมู เครื่องในหมู หรือกระดูกเล้งก็ได้นะคะ ดูวิธีทำ "ต้มแซ่บปลากะพง" คลิก ปลาดุกฟู 3. ปลาดุกฟู เตรียมกระทะใส่น้ำมันให้พร้อมเตรียมทอดปลาดุกฟูกันเลย มาพร้อมวิธีทำน้ำยำรสแซ่บ เคล้ากับมะม่วงเปรี้ยว หอมแดง และถั่วลิสงคั่ว >> ดูวิธีทำ "ปลาดุกฟู" คลิก << เต้าเจี้ยวหลน สูตรจาก คุณเนรัญชลา 4.
49 4:05> ( IP A:84. 30. 82. 122 X:) -------------------------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 2 ทักทายคุณน้องจุ๊บแจง และสตรีนิรนาม ครับอยากบอกว่าข้าวแต๋นที่จ. ลำปางมีหลายรูปแบบและอร่อยมากๆมีชื่อมานาน อยู่ติดกะบขส. ลำปาง ไปที่ไรต้องซื้อติดไปเป็นของฝากที อิอิ และมีอีกหลายผลิตภัณฑ์ของคนเหนือครับ โดย: ต้นรัก [23 ธ. 49 7:42> ( IP A:203. 113. 51. 137 X:) -------------------------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 3 หวัดดีคะ น้องจุ๊บแจงและสตรีนิรนาม คุณต้นรัก แวะมาเก็บเกี่ยวความรู้ด้วยคน และขอบคุณสตรีนิรนาม มากๆคะ โดย: ชมพู่ [23 ธ. 49 12:15> ( IP A:213. 114. 231. 223 X:) -------------------------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 4... สวัสดีทุกท่านครับ แวะเข้ามาทักทายครับ โดย: จินจง [23 ธ. 49 15:46> ( IP A:125. 24. 167. 223 X:) -------------------------------------------------------------------------------- ดำ ขาว น้ำเงิน แดง เขียว เหลือง ส้ม น้ำตาล ม่วง ฟ้า เขียวมะนาว รายละเอียด: ชื่อ / e-mail: แทรกไอคอนน่ารักๆในข้อความ รูปประกอบ: < 100K จัดตำแหน่งรูป: ชิดซ้าย กึ่งกลาง ชิดขวา เสียงประกอบ:.
แค่นี้ก็เสร็จ ตักใส่ถ้วยได้ทานกับผักสดตามชอบแล้ว สูตรที่ 3 น้ำพริกอ่อง สูตรอร่อยต้องลอง เป็นสูตรน้ำพริกอ่องสูตรดั้งเดิมต้นตำรับที่วิชัย ทาเปรียว ข่าวสดเชียงใหม่นำมาบอกกล่าวกัน มีเครื่องปรุงและวิธีทำอย่างไรบ้าง…ไปดูกัน เครื่องปรุง หมูสับ 250 กรัม มะเขือเทศลูกใหญ่ 3-4 ลูก พริกแห้งบางช้างหั่นเป็นท่อน (เอาเมล็ดออกแช่น้ำ 3 เม็ด)ข่า 2 แว่น กะปิปิ้งไฟ หรือถั่วเน่า 1 ช้อนชา หอมแดง 2 หัว กระเทียมกลีบเล็ก 4 กลีบ รากผักชี 2 ราก กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา พอประมาณ น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง รสดีรสหมู 1 ช้อนชา ต้นหอมซอย พอประมาณ ผักชีซอย พอประมาณ วิธีทำ 1. นำมะเขือเทศมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เท่าที่จะเล็กได้ ต้นหอมผักชีซอยเตรียมไว้ 2. ลงมือเตรียมเครื่องน้ำพริกเอาไว้ เริ่มจากนำพริกแห้ง หอมแดง กระเทียม ข่า รากผักชี กะปิหรือถั่วเน่าใส่ครกแล้วโขลกให้ละเอียดเข้ากัน นำหมูสับลงไปย้ำกับครกให้เข้ากับเครื่องแกงน้ำพริกที่โขลกไว้ นำมะเขือเทศที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในครกแล้วย้ำให้เข้ากัน แต่อย่าให้ละเอียด 3. นำกระทะตั้งไฟ (ใช้ไฟอ่อนๆถึงปานกลาง) ใส่น้ำมันลงไป พอร้อนใส่กระเทียมสับที่เหลือลงไป ผัดให้หอม 4.